top of page

CHAO PHRAYA EXPRESS BOAT AND GPSC SIGN AN MOU TO DEVELOP THAILAND’S FIRST PROTOTYPE BOAT BATTERY PACKS
เรือด่วนเจ้าพระยา ร่วมกับ GPSC ลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการพัฒนาต้นแบบแบตเตอรี่เรือโดยสารไฟฟ้าครั้งแรกของประเทศไทย

CPX

2021/12/17

On 17 December 2021 at Supatra River House, Mrs. Supapan Pichaironarongsongkram, Chairman of Chao Phraya Express Boat Company Limited, and Mrs. Rosaya Teinwan, Executive Vice President - Business Development of Global Power Synergy Public Company Limited or GPSC, signed a Memorandum of Understanding (MOU) for the development of a prototype battery pack and a drive system for electric power-driven boats at a signing ceremony presided by Mr. Phuripat Theerakulpisut, Deputy Director-General of the Marine Department. Also in attendance were Lieutenant Commander Chareonporn Chareontham, Managing Director of the Chao Phraya Express Boat Co., Ltd., Mr. Laksanapreecha Krutkuntode, Senior Vice President of New Technology of GPSC, and other distinguished guests.

Mr. Phuripat Theerakulpisut, Deputy Director-General of the Marine Department said that the Marine Department under the Ministry of Transportation has been working with the private sector on several EV development projects, including electric power technology for boats and piers. The partnership between Chao Phraya Express Boat and GPSC certainly provides a solution for fuel efficiency and emission reduction and could expand to other projects under the transportation system development plan, which focuses on increased reliance on electric energy to ease road traffic and reduce pollution levels, in line with the country’s development plan. The cooperation will also help promote the use of electric boats for water transportation in a concrete manner.

Mrs. Supapan Pichaironarongsongkram, Chairman of the Chao Phraya Express Boat Company Limited, an operator of Chao Phraya express boat service, said that for the past 50 years, the Supatra Group’s Chao Phraya Express Boat Company Limited has been continuously promoting fuel efficiency to reduce air pollution and conserve the environment. The development of electric boats and the transition to using more electric power-driven boats are naturally our main goals. The partnership with GPSC marks a significant step for the company in its electric boat endeavor, in which GPSC-developed lithium-ion battery will play an important role. The high-quality Thailand-made battery will be used with the company’s Water Limousine fleet, which is currently in the design phase. Subsequently, the initiative will be extended to the company and Supatra Group’s other types of electric passenger boats as well to enhance the prospects of related businesses.

Mrs. Rosaya Teinwan, Executive Vice President - Business Development of Global Power Synergy Public Company Limited or GPSC, the innovative power flagship of PTT Group, said that the partnership marks crucial progress in the commitment to reducing air and noise pollution to maintain environmental friendliness in and along the Chao Phraya River and riverside communities. Towards this goal, electric power-driven boats will be developed under the cooperation with Chao Phraya Express Boat, a highly-experienced water transportation service provider, with a focus on devising an electric power system that is commercially suitable for water transportation in the Chao Phraya River and other waterways in the country.

The shared vision has resulted in the collaboration on “the development of a prototype battery pack and a drive system for electric power-driven boats” between GPSC and Chao Phraya Express Boat. The highly safe and eco-friendly G-Cell lithium-ion battery will be used to power Supatra Group’s passenger boats, starting with the Water Limousine fleet before expanding the commercial cooperation to other boat types.

With GPSC and 24M’s SemiSolid lithium-ion battery cell manufacturing technology, internationally recognized by such world-class organizations as Volkswagen, Kyocera, AXXIVA, and Freyr, the partnership is certain to become another major milestone in the energy storage system innovation developed by Thais. The partnership will not only support the country’s energy policy to tackle environmental problems but will also enhance energy efficiency in a wide range of settings from the industrial, transportation, and public and private sectors to buildings and offices.

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่สุภัทรา ริเวอร์ เฮ้าส์ นางสุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม ประธานกรรมการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ร่วมลงนามความร่วมมือกับ นางรสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาธุรกิจ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในพิธีลงนาม “บันทึกข้อตกลง (MOU)โครงการพัฒนาตนแบบแบตเตอรี่ และระบบขับเคลื่อนเรือโดยสารไฟฟ้า” โดยมี นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดี ด้านปลอดภัย กรมเจ้าท่า เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นาวาตรี เจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และนายลักษณะปรีชา ครุฑขุนทด ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงาน GPSC และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยานความร่วมมือในครั้งนี้

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดี ด้านปลอดภัย กรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่า ในสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่ผ่านมามีโครงการการดำเนินงานพัฒนายานพาหนะด้วยพลังงานไฟฟ้า หลากหลายโครงการ ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำเทคโนโลยีด้านพลังงานไฟฟ้าเข้ามาใช้กับตัวเรือและท่าเรือ ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการพัฒนาต้นแบบแบตเตอรี่เรือโดยสารไฟฟ้าที่ร่วมมือระหว่างบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และ GPSC นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตอบโจทย์การลดใช้เชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพ และมองเห็นผลที่จะสามารถพัฒนาไปยังโครงการต่าง ๆ ตามแผนพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่ง ในการนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้แทนสอดรับกับแผนการพัฒนาประเทศ ลดปัญหาการจราจรทางบก ลดมลภาวะ ให้เกิดการขับเคลื่อน ส่งเสริมนำเรือพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระบบการคมนาคมขนส่งทางน้ำอย่างเต็มรูปแบบและเป็นรูปธรรมต่อไป

นางสุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม ประธานกรรมการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา กล่าวว่า ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด หนึ่งในบริษัทในกลุ่มสุภัทรา มีนโยบายส่งเสริมการลดใช้เชื้อเพลิงน้ำมันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการลดมลภาวะทางอากาศ และเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการพัฒนาเรือโดยสารไฟฟ้าจึงเป็นเป้าหมายหลักที่กลุ่มบริษัทฯ ต้องการที่จะพัฒนา และปรับรูปแบบมาใช้เรือโดยสารไฟฟ้าในการให้บริการมากขึ้น ทั้งนี้การลงนามความร่วมมือกับ GPSC นับเป็นก้าวสำคัญที่บริษัทฯ จะได้เริ่มต้นพัฒนาเรือโดยสารไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยการพัฒนาครั้งนี้จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมอิออน ที่ศึกษาโดย GPSC เป็นแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพซึ่งผลิตในประเทศไทย นำมาประกอบเป็นส่วนหนึ่งในเรือไฟฟ้า รุ่น Water Limousine ของ เรือด่วนเจ้าพระยา ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างการออกแบบ อย่างไรก็ตามในอนาคตบริษัทฯ มีแผนขยายผลไปสู่เรือโดยสารไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ของเรือด่วนเจ้าพระยา และในกลุ่มสุภัทรา เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย

ด้าน นางรสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการมุ่งมั่นลดมลภาวะทางอากาศและทางเสียง เพื่อเสริมสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับแม่น้ำเจ้าพระยาและชุมชนทางน้ำของประเทศไทย ผ่านการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ากับผู้ที่มีประสบการณ์ในการให้บริการระบบขนส่งมวลชนทางน้ำของไทย บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา เพื่อพัฒนาเรื่องไฟฟ้าสำหรับใช้งานเชิงพาณิชย์ในแม่น้ำเจ้าพระยาและช่องทางการสัญจรทางน้ำต่าง ๆ ในประเทศไทย ด้วยวิสัยทัศน์ร่วมกันนี้ จึงนำมาสู่ความร่วมมือใน “โครงการพัฒนาต้นแบบชุดแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนเรือโดยสารไฟฟ้า” ระหว่าง GPSC และ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา เพื่อนำ “G-Cell” แบตเตอรี่ลิเธียมฯ ที่มีความปลอดภัยและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาใช้งานกับเรือและบริการที่มีคุณภาพจากกลุ่มสุภัทรา เพื่อเริ่มต้นทดลองให้บริการแก่ผู้โดยสาร โดยเริ่มจากรุ่นแรก Water Limousine ก่อนที่จะนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือเชิงพาณิชย์ในรุ่นต่าง ๆ ต่อไป

ทั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยีกระบวนการผลิตแบบ SemiSolid ของ GPSC และ 24M ที่ได้รับความไว้วางใจจาก ผู้ประกอบการระดับโลกอย่าง Volkswagen, Kyocera, AXXIVA และ Freyr ในการนำมาผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมฯ จึงมั่นใจได้ว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่ง Milestone ที่สำคัญในการนำนวัตกรรมระบบกักเก็บพลังงานที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อสรรสร้างนวัตกรรม ส่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานงานในรูปแบบใหม่ เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านพลังงานของประเทศในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทั้งในระดับอุตสาหกรรม ภาคขนส่ง หน่วยงานรัฐ และเอกชน อาคาร สำนักงาน ฯลฯ ต่อไป

bottom of page